bed-room-design-02

แต่งห้องนอนอย่างไร ให้ถูกหลักฮวงจุ้ย

เกริ่นนำ

ห้องนอนถือเป็นส่วนประกอบที่สำคัญที่สุดของบ้าน สำหรับการพักผ่อนยามค่ำคืน เพื่อที่จะได้มีแรงตื่นมาทำงานในวันถัดไป เพราะฉะนั้น การแต่งห้องนอนให้ถูกตามหลักฮวงจุ้ย จะช่วยดึงพลังจากธรรมชาติมาเสริมพลังงานดี ให้วันถัดไปที่ตื่นขึ้นมาเต็มไปด้วยความสดชื่น

บทความนี้ ธอส. จะขอแนะนำเทคนิคการแต่งห้องนอนให้ถูกฮวงจุ้ย เติมพลังบวกให้กับบ้าน พร้อมเสริมความมงคลให้กับชีวิตและการงาน

bed-room-design-01

ตำแหน่งเตียง จุดสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม

เมื่อพูดถึงการแต่งห้องนอน แน่นอนว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดย่อมหมายถึงเตียง โดยตามหลักของฮวงจุ้ยสำหรับห้องนอนแล้ว ตำแหน่งและทิศทางการวางเตียงนั้นสำคัญที่สุด เพราะฉะนั้น เรามาดูกันเลยว่าสำหรับการแต่งห้องนอนตามหลักฮวงจุ้ย ควรจัดวางเตียงในรูปแบบใด

  • กำหนดทิศของเตียง

ตามหลักฮวงจุ้ยแล้ว ตำแหน่งทิศของการหันปลายเตียงจะสัมพันธ์กับพลัง “ชี่” ซึ่งจะช่วยส่งพลังมาให้กับผู้อยู่อาศัย เพราะฉะนั้นจึงควรแต่งห้องนอนให้ปลายเตียงหันไปตามทิศต่างๆ

โดยทิศแต่ละทิศจะส่งผลต่อผู้อยู่อาศัยแตกต่างกันไป ดังนี้

  • ทิศเหนือ – ช่วยพัฒนาการรับรู้ และสัญชาตญาณ
  • ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ – ช่วยในด้านการทำงานให้เป็นไปอย่างราบรื่น และทักษะที่เกี่ยวข้องกับการงาน
  • ทิศตะวันออก – ช่วยให้นอนหลับพักผ่อนได้อย่างสงบ
  • ทิศตะวันออกเฉียงใต้ – ช่วยเสริมความพากเพียรพยายาม
  • ทิศใต้ – ช่วยให้มีผู้นับหน้าถือตา ผู้คนรักใคร่ มีชื่อเสียงลาภยศ
  • ทิศตะวันตกเฉียงใต้ – ช่วยเสริมสัมพันธ์ด้านความรัก และสมหวังในความรัก
  • ทิศตะวันตก – ช่วยให้ลูกเติบโตมาได้ดิบได้ดี
  • ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ – ช่วยให้มีเพื่อนฝูงห้อมล้อมมากมาย

ทั้งนี้ สำหรับชาวไทยเองก็มีความเชื่อที่ว่าไม่ควรหันหัวเตียงไปทางทิศตะวันตก เนื่องจากถือกันว่าเป็นทิศอัปมงคล อาจทำให้อายุสั้น จึงอาจจะหลีกเลี่ยงการหัวหัวเตียงไปทางทิศตะวันตกได้ตามความเชื่อ

bed-room-design-02
  • ปลายเตียงอย่าหันไปทางประตู

ตามหลักฮวงจุ้ยนั้นเชื่อว่า ประตูคือปากทางเข้าออกของพลังชี่ การแต่งห้องนอนโดยมีประตูอยู่ที่ปลายเตียงอาจทำให้พลังร้ายไหลเข้ามา และพลังดีถูกส่งออกไป อาจทำให้นอนหลับได้ไม่เต็มตื่น เหนื่อยง่าย มีอาการเจ็บป่วยหรือเกิดอุบัติเหตุเล็กๆ บ่อย

โดยวิธีแก้ก็คือ จัดวางตำแหน่งให้หัวเตียงอยู่เยื้องกับประตู ซึ่งตามหลักฮวงจุ้ยจะเชื่อว่าจะทำให้พลังงานดีไหลเข้ามามากกว่า ช่วยให้หลับสบาย เสริมโชคลาภ และทำให้หน้าที่การงานเป็นไปได้อย่างราบรื่น นอกจากนี้ในเชิงจิตวิทยาแล้วการแต่งห้องนอนแบบนี้ยังทำให้ผู้อยู่อาศัยรู้สึกปลอดภัย เนื่องจากสามารถมองเห็นได้ว่าใครเข้าออกห้องนอนบ้าง

  • ห้องน้ำไม่ควรอยู่ตรงกับเตียง

ห้องน้ำนั้นตามความเชื่อของฮวงจุ้ยนั้นจะเหมือนแหล่งรวมของเสีย หรือพลังงานไม่ดี อาจทำให้ผู้อยู่อาศัยมีอาการเจ็บป่วยที่เกี่ยวกับหลังได้ ซึ่งหากมองตามหลักความเป็นจริงแล้ว ห้องน้ำอาจส่งกลิ่นรบกวนขณะนอนหลับ หรือความชื้นอาจทำให้เตียงขึ้นราได้

โดยวิธีแก้นั้นไม่ยากเลย เพียงแค่ตั้งเตียงนอนให้ออกห่างจากตัวห้องน้ำเท่านั้น หรือหากหลีกเลี่ยงให้เตียงอยู่ห่างห้องน้ำไม่ได้จริงๆ ให้นำฉาก หรือสิ่งที่สามารถใช้กั้นห้องได้มาบังไว้

  • กระจกอย่าวางให้ส่องเตียง

กระจกนั้นเปรียบเสมือนสิ่งรบกวนตามหลักฮวงจุ้ย การวางกระจกสะท้อนเข้ามาที่เตียงนั้น อาจสร้างปัญหาให้รู้สึกไม่สบายตัวขณะนอนหลับ รวมถึงอาจสร้างปัญหาด้านความรักและความสัมพันธ์กับคนรอบข้างได้ เพราะฉะนั้นจึงควรแต่งห้อวนอนโดยที่กระจกไม่หันหน้ามาทางเตียงจะดีที่สุด

  • ประตูห้องนอน อย่าอยู่ตรงกัน

หากยึดตามหลักฮวงจุ้ยแล้ว บ้านใดที่มีห้องนอน 2 ห้องหันด้านหน้าประตูชนกัน เนื่องจากทั้งพลังที่ดีและไม่ดีจะไหลเข้าออกทางห้องนอนทั้ง 2 อาจส่งผลให้ผู้ที่นอนในห้องนั้นเกิดความขัดแย้งกันได้

สีห้องนอนตามนักษัตรปีเกิด

นอกจากการจัดวางเตียงแล้ว การแต่งห้องนอนด้วยสีสันต่างๆ เองก็มีความเกี่ยวโยงกับหลักฮวงจุ้ยเช่นเดียวกัน โดยสีของห้องนอนที่ถูกโฉลกนั้นสามารถตรวจสอบได้จากนักษัตรปีเกิดของเจ้าบ้าน ดังนี้

  • ปีหนู – สีที่ถูกโฉลกได้แก่ สีขาว สีฟ้า สีเทา และสีดำ
  • ปีวัว – สีที่ถูกโฉลกได้แก่ สีม่วง สีเหลือง สีส้ม และสีน้ำตาล
  • ปีเสือ – สีที่ถูกโฉลกได้แก่ สีดำ สีเขียว สีเหลืองอมเขียว และสีฟ้า
  • ปีกระต่าย – สีที่ถูกโฉลกได้แก่ สีเหลืองอมเขียว สีดำ สีฟ้า และสีเขียว
  • ปีมังกร – สีที่ถูกโฉลกได้แก่ สีส้ม สีม่วง สีเหลือง และสีแดง
  • ปีงู – สีที่ถูกโฉลกได้แก่ สีเหลืองอมเขียว สีม่วง สีแดง และสีส้ม
  • ปีม้า – สีที่ถูกโฉลกได้แก่ สีเขียว สีเหลือง สีแดง และสีม่วง
  • ปีแพะ – สีที่ถูกโฉลกได้แก่ สีม่วง สีส้ม สีแดง และสีน้ำตาล
  • ปีลิง – สีที่ถูกโฉลกได้แก่ สีน้ำตาล สีเหลือง สีทอง สีเงิน และสีขาว
  • ปีไก่ – สีที่ถูกโฉลกได้แก่ สีทอง สีเหลือง สีน้ำเงิน และสีขาว
  • ปีจอ – สีที่ถูกโฉลกได้แก่ สีส้ม สีม่วง สีเหลือง และสีน้ำตาล
  • ปีหมู – สีที่ถูกโฉลกได้แก่ สีทอง สีเงิน สีฟ้า สีดำ และสีเทา

เพิ่มสิ่งประดับรับพลังจากธรรมชาติ

สิ่งของประดับตกแต่งห้องนอนเองก็มีส่วนสำคัญที่จะช่วยดึงพลังบวกมาให้กับผู้อยู่อาศัยได้ค่อนข้างมาก อย่างเช่น หินมงคล หินคริสตัล หรืออัญมณีประดับ ซึ่งจะช่วยเสริมมงคลทางด้านโชคลาภเงินทองเข้ามาให้กับผู้อยู่อาศัย

อีกสิ่งหนึ่งที่อยากจะเตือนไว้ก็คือ โดยปกติแล้วเมื่อพูดถึงสิ่งประดับภายในห้องนอน หลายๆ คนมักจะเลือกปลูกต้นไม้ หรือไม้ฟอกอากาศเอาไว้ในห้อง แต่จริงๆ แล้วต้นไม้นั้นจะมีพลังหยางค่อนข้างมาก จะส่งผลให้พลังงานในตัวเราไม่หยุดนิ่ง อาจทำให้นอนพักผ่อนได้ไม่สบายตัว

สรุป

ฮวงจุ้ยนั้นแม้จะเป็นศาสตร์ที่ขึ้นอยู่กับความเชื่อ แต่ก็มีส่วนที่คำนึงถึงการใช้ชีวิตตามความเป็นจริงด้วยเช่นกัน เพราะฉะนั้น การแต่งห้องนอนตามหลักฮวงจุ้ยนั้นจะช่วยสนับสนุนผู้อยู่อาศัยให้นอนหลับได้อย่างสบายหายห่วงแน่นอน

ที่มา : https://blog.ghbank.co.th/bed-room-design/

Stylish room in white color with sofa and summer landscape in window. Scandinavian interior design. 3D illustration

บ้านสไตล์มินิมอล ตกแต่งแบบน้อยแต่มาก สร้างภาพลักษณ์อบอุ่น

บ้านสไตล์มินิมอล เป็นหนึ่งในเทรนด์การแต่งบ้านที่กำลังมาแรงเป็นอย่างมากในยุคนี้ ด้วยภาพลักษณ์ที่ดูเรียบง่าย แต่กลับมีความรู้สึกน่าค้นหา ให้ความรู้สึกอบอุ่นสบายตา จึงไม่แปลกใจเลยว่าใครๆ ก็หลงรักบ้านสไตล์นี้

สำหรับใครที่กำลังจะเริ่มต้นตกแต่งบ้าน บทความนี้ ธอส.จะมาแนะนำเคล็ดลับที่จะช่วยให้ทุกคนสามารถจัดบ้านให้ออกมาในรูปแบบมินิมอลตามที่ตั้งใจ เรามาดูกันเลยว่ามีเคล็ดลับอย่างไรบ้าง!

หัวข้อหลัก

  • บ้านสไตล์มินิมอล ตกแต่งแบบน้อยแต่มาก สร้างภาพลักษณ์อบอุ่น
    • การเลือกโทนสีภายในบ้าน
    • ประดับต้นไม้ เพิ่มความเป็นธรรมชาติ
    • การจัดแสงสร้างภาพลักษณ์อบอุ่น
    • เฟอร์นิเจอร์ “น้อยแต่มาก”
    • ชั้นวางของเพิ่มความเป็นระเบียบ
  • แนะนำสินเชื่อเพื่อสิ่งอำนวยความสะดวกภายในบ้านจาก ธอส.

บ้านสไตล์มินิมอล ตกแต่งแบบน้อยแต่มาก สร้างภาพลักษณ์อบอุ่น

บ้านสไตล์มินิมอล เป็นการตกแต่งในลักษณะที่เรียบง่าย ให้ความรู้สึกสงบ สบายตา และอบอุ่น โดยมีเอกลักษณ์ที่ “น้อยแต่มาก” ด้วยการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ และการประดับเท่าที่จำเป็นเพื่อให้ตัวบ้านมีความเป็นระเบียบเรียบร้อย แต่สามารถตอบโจทย์การใช้ชีวิตได้อย่างครบถ้วน

เพราะฉะนั้น เรามาดูกันเลยว่าเคล็ดลับในการตกแต่งบ้านให้ออกมาอบอุ่น เรียบง่าย สไตล์มินิมอลนั้น สามารถทำอย่างไรได้บ้าง!

  • การเลือกโทนสีภายในบ้าน

คือการควบคุมโทนสีโดยรวมของบ้านให้ไปในทิศทางเดียวกัน ควรจะเป็นเฉดสีที่ไม่ฉูดฉาด เช่น สีขาว สีเทา หรือสีครีม เพื่อให้บรรยากาศของบ้านนั้นมีความอบอุ่น หรือจะเลือกใช้สีขาวเป็นหลัก แล้วเติมสีอื่นๆ เข้าไปตัดเพื่อสร้างอารมณ์ที่แตกต่าง ยกตัวอย่างเช่น

  • ห้องตัวอย่าง 1: โทนสีหลักสีขาว เติมด้วยสีไม้เนื้ออ่อน

จากห้องตัวอย่างจะเลือกใช้สีขาวเป็นหลัก แล้วประดับด้วยเฟอร์นิเจอร์สีไม้เนื้ออ่อน เพื่อให้บรรยากาศอบอุ่น เรียบง่ายสไตล์ญี่ปุ่น

tips-for-minimal-house-decorating-02
  • ห้องตัวอย่าง 2: โทนสีที่ตัดกันระหว่าง สีขาว และสีดำ

ห้องตัวอย่างนี้ใช้การตัดกันของสีขาว และสีดำ ให้ความรู้สึกที่แตกต่างจากห้องตัวอย่างแบบที่ 1 ค่อนข้างมาก โดยจะให้บรรยากาศเรียบหรูขึ้นมาแทน

tips-for-minimal-house-decorating-0
  • ประดับต้นไม้ เพิ่มความเป็นธรรมชาติ

สิ่งที่บ้านสไตล์มินิมอลจะขาดไปไม่ได้เลยนั้นก็คือ “ต้นไม้” โดยควรเลือกต้นไม้ที่มีสีเขียวชอุ่ม ช่วยให้โทนสีภายในบ้านของคุณดูจืดชืด น่าดึงดูด นอกจากนี้สีเขียวจากธรรมชาติยังช่วยให้ผู้ที่ได้มองรู้สึกผ่อนคลายอีกด้วย

โดยต้นไม้บางสายพันธ์ุยังมีคุณสมบัติช่วยฟอกสารพิษในอากาศ ช่วยให้บรรยากาศภายในบ้านมีความสดชื่นตลอดเวลา เช่น

  • ต้นมอนสเตอรา (Monstera)
  • ต้นยางอินเดีย (Rubber Plant)
  • ต้นเดหลี (Peace Lily)

ยังมีต้นไม้อื่นๆ ที่มีคุณสมบัติฟอกอากาศได้อีกมากมาย สามารถดูได้ที่ >>> บทความนี้

tips-for-minimal-house-decorating-03
  • การจัดแสงสร้างภาพลักษณ์อบอุ่น

การจัดแสงไฟภายในห้องนั้นสามารถสร้างบรรยากาศให้กับตัวบ้านได้เป็นอย่างดี โดยปกติแล้วแสงจากหลอดไฟที่เราเห็นนั้นมักจะเป็นแบบ “Daylight White” ซึ่งเป็นแสงสีขาวโทนออกฟ้าเล็กน้อย แต่หลอดไฟสำหรับบ้านสไตล์มินิมอลนั้น เราขอแนะนำดังนี้

  • Warm White จะให้แสงในโทนที่ค่อนข้างส้ม ให้ความรู้สึกอบอุ่น
  • Cool White จะให้แสงที่อยู่กึ่งกลางระหว่าง Warm White และ Daylight White ซึ่งแสงจะมีโทนสีส้มที่เบาบางกว่า Warm White ค่อนข้างมาก

โดยจะเลือกใช้หลอดไฟแบบไหนนั้นขึ้นอยู่กับความชอบ และโทนสีห้องของคุณ หรือจะเลือกติดตั้ง Dimmer Switch ที่สามารถปรับระดับความสว่างของแสงไฟได้ ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่จะช่วยสร้างบรรยากาศภายในห้องได้เป็นอย่างดี

tips-for-minimal-house-decorating-04
  • เฟอร์นิเจอร์ “น้อยแต่มาก”

หัวใจสำคัญของการตกแต่งบ้านสไตล์มินิมอลนั้นอยู่ที่คำว่า “น้อยแต่มาก” หมายความว่า มีเฟอร์นิเจอร์ภายในบ้านเพียงน้อยชิ้น แต่สามารถใช้ประโยชน์ได้มาก หรือที่เราเรียกว่าเฟอร์นิเจอร์แบบ Multi Function ซึ่งนอกจากจะช่วยประหยัดพื้นที่แล้ว ยังช่วยให้ภาพลักษณ์ของบ้านดูเรียบง่าย สบายตาอีกด้วย

อย่างเช่นในภาพตัวอย่าง จะเห็นได้ว่าเป็นชั้นวางทีวีแบบ Build-In ยาวไปจนตลอดผนัง ซึ่งสามารถใช้เป็นโต๊ะสำหรับทำงานได้ รวมไปถึงมีลิ้นชักให้สามารถจัดเก็บของได้อีกเป็นจำนวนมาก

tips-for-minimal-house-decorating-05
  • ชั้นวางของเพิ่มความเป็นระเบียบ

แม้จะจัดบ้านสวยแค่ไหน แต่ถ้ามีข้าวของวางรกไปทั่ว มองยังไงก็คงไม่ให้ความรู้สึกมินิมอล จึงควรมีชั้นวางของสำหรับจัดเก็บสิ่งของ หรืออุปกรณ์ต่างๆ ที่ไม่ได้ใช้บ่อยๆ เพื่อให้บ้านเป็นระเบียบ และสบายตา ดังนี้

  • ชั้นวางของแบบไม่มีฝา: สำหรับวางสิ่งที่หยิบมาใช้บ่อยๆ เพื่อให้สามารถหาได้อย่างสะดวก อย่างเช่น หนังสือ หรือแฟ้มเอกสารต่างๆ
  • ชั้นวางของแบบมีฝาทึบ: สำหรับเก็บของที่ไม่ค่อยได้ใช้ หรือให้ภาพลักษณ์ที่ดูไม่ดี เช่น ไม้กวาด หรืออุปกรณ์ทำความสะอาดต่างๆ
  • ชั้นวางของแบบฝากระจก: เหมาะสำหรับนักสะสมที่ชอบตั้งโชว์สิ่งต่างๆ เช่น ฟิกเกอร์ ถ้วยรางวัล หรือประกาศนียบัตร
tips-for-minimal-house-decorating-06

ที่มา : https://blog.ghbank.co.th/tips-for-minimal-house-decorating/

feng-shui-in-your-home-feature-image-02-resize

10 แบบฮวงจุ้ยบ้านทันสมัย ร่มรื่นปลอดภัย เงินทองไม่รั่วไหล

ฮวงจุ้ยบ้านบางส่วนยังสอดคล้องกับหลักสถาปัตยกรรมที่มุ่งเน้นให้ผู้อยู่อาศัยภายในบ้านมีความสุขด้วยเช่นกัน ในบทความนี้จะขอแนะนำ 10 หลักฮวงจุ้ยที่เสริมพลังให้กับบ้าน ที่สามารถนำไปใช้กับบ้านในฝันของคุณได้ทันที

สำหรับผู้ที่เชื่อในศาสตร์ของฮวงจุ้ย  เพื่อทำให้บ้านช่วยเสริมพลังให้กับตัวเจ้าของบ้านและผู้อยู่อาศัย นอกจากนี้ การมีฮวงจุ้ยบ้านที่ดียังสามารถช่วยให้ผู้อยู่อาศัยมีสุขภาพที่ดี การงานที่ก้าวหน้าขึ้น หรือเสริมทรัพย์โชคลาภเงินทองตามมา

ฮวงจุ้ยบ้านสำคัญอย่างไร

เพราะฮวงจุ้ยคือวิชาว่าด้วยทำเลที่ตั้งให้สอดคล้องกับหลักธรรมชาติ ฮวงจุ้ยบ้านจึงหมายถึงหลักของการจัดวางสิ่งต่างๆ ภายในบ้านให้เหมาะสมกับธรรมชาติ เพื่อที่จะทำให้ผู้อยู่อาศัยมีความสุขมากกว่าเดิม

การจัดบ้านตามฮวงจุ้ยนับว่าเป็นการเสริมพลังให้แก่ผู้อยู่อาศัย อันจะทำให้ให้ชีวิตของบุคคลนั้นมีการดำเนินไปอย่างมีความสุข มีความสำเร็จตามวาสนา และช่วยบรรเทาอุปสรรคที่จะมีขึ้นในชีวิตลงได้

สิบตำแหน่งฮวงจุ้ยบ้านที่ควรพิจารณา

สิบตำแหน่งฮวงจุ้ยบ้านที่ควรพิจารณา

      1.สร้างบ้านบนชัยภูมิที่ดี

ชัยภูมิของบ้านที่ดีตามหลักฮวงจุ้ย คือ บริเวณที่สามารถเก็บพลังได้ การเลือกที่ดินที่ดีตั้งแต่ต้นจะทำให้ฮวงจุ้ยของบ้านดีตามไปด้วย โดยที่ดินที่ดีตามหลักฮวงจุ้ยนั้นจำเป็นต้องมีจุดรับและเก็บกระแสพลังงานที่ดี เป็นที่ดินที่มีด้านกว้างและไม่ลึกมากจนเกินไป และมีทิศทางองศาที่ไหลเวียนพลังงานได้ดี

      2. คำนึงถึงแสงแดดและการไหลเวียนของลม

แสงแดดและลมถือเป็นพลังงานสำคัญตามหลักของฮวงจุ้ย ดังนั้น การออกแบบบ้านให้แสงแดดส่องถึงและมีการไหลเวียนลมที่ดีจึงมีความสำคัญ เพราะนอกจากจะทำให้พลังงานไหลเข้ามาสู่ตัวบ้านแล้ว บ้านที่แดดส่องถึงเพียงพอและอากาศไหลเวียนดียังช่วยให้คนในบ้านอยู่สบายได้อีกด้วย

โดยในประเทศไทย ที่ดินสร้างอาคารควรหันหน้าเข้าทางทิศใต้เพื่อรับลมเข้าทางหน้าบ้านโดยตรง อีกทั้งยังไม่โดนแดดมากจนเกินไป ส่วนทิศตะวันตกและทิศตะวันตกเฉียงใต้ก็เหมาะกับการสร้างอาคารตามหลักฮวงจุ้ยด้วยเช่นกัน แต่แดดในตอนบ่ายจะส่องเข้าทิศดังกล่าวมากเป็นพิเศษ

      3.จัดสมดุลระหว่างธาตุเพื่อเพิ่มพลัง

พื้นฐานของฮวงจุ้ยคือธาตุทั้งห้าได้แก่ดิน น้ำ ลม ไฟและโลหะ การจัดวางสิ่งของตามธาตุให้สมดุลจะสามารถเพิ่มพลังงานให้กับตัวบ้านได้ สำหรับคนธาตุดินควรแต่งบ้านด้วยหินมงคล ควอทซ์หรือของตกแต่งที่มีสีอิฐ สีน้ำตาลอ่อน คนธาตุน้ำควรวางบ่อน้ำ น้ำพุ หรืออ่างน้ำ หรือของประดับสีฟ้าหรือดำ คนธาตุลมควรวางของประดับที่ทำจากไม้ ลักษณะเป็นสี่เหลี่ยม สีน้ำตาลหรือเขียว คนธาตุไฟควรวางเทียน ตะเกียง หรือ ของตกแต่งที่มีสีส้ม แดง เหลืองเข้ม ม่วง หรือชมพูเข้ม ส่วนคนธาตุโลหะควรวางของประดับทรงกลม หรือเป็นของประดับที่ไม่มีเหลี่ยมมุม สีขาว เงิน หรือเทา

       4.อย่าทำให้บ้านรก

บ้านที่รกรุงรังนอกจากจะไม่น่าอยู่อาศัยแล้ว ยังจะทำให้การไหลเวียนของพลังงานภายในบ้านไม่ดีอีกด้วย ซึ่งจะไปลดทอนพลังงานของผู้อยู่อาศัยด้วยอีกทางหนึ่ง คุณควรหมั่นจัดบ้านอยู่เสมอ เพราะบ้านที่สะอาดนอกจากจะช่วยเสริมพลังแล้ว ยังช่วยให้สุขอนามัยในบ้านดีขึ้นอีกด้วย

       5.นำของที่ไม่ดีออกจากตัวบ้าน

ของที่ชำรุด ขยะ อาวุธ ภาพวาดที่รุนแรง ล้วนเป็นสิ่งไม่ดีที่ส่งผลต่อผู้อยู่อาศัย การนำของที่ไม่ดีออกจากบ้านเปรียบเสมือนการนำพลังงานที่ไม่ดีออกไปด้วย

สิบตำแหน่งฮวงจุ้ยบ้านที่ควรพิจารณา

       6.ปลูกต้นไม้เพื่อเสริมพลังงาน

ต้นไม้สามารถเสริมพลังงานให้แก่บ้านได้อย่างมาก ถ้าหากปลูกให้ถูกต้องตามหลักการ โดยหลักการในการปลูกต้นไม้ในตัวบ้าน คือ

  • ห้ามมีส่วนใดส่วนหนึ่งของต้นไม้โดนตัวบ้าน
  • ห้ามปลูกต้นไม้บังประตูบ้าน
  • ห้ามปลูกต้นไม้กลางบ้าน
  • ห้ามเก็บต้นไม้ที่ตายแล้วไว้ในบริเวณบ้าน 

นอกจากนี้ ยังมีต้นไม้ที่ช่วยเสริมพลังให้กับบ้านโดยตรง เช่น ต้นไผ่ หากปลูกหน้าบ้านจะส่งเสริมความมั่งคั่งและโอกาส ต้นสนจะช่วยเสริมพลังชีวิต ต้นส้มจะให้โชคลาภและความมั่งคั่ง ต้นมะนาวจะนำผลประโยชน์มาให้ ต้นแอปเปิ้ลช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในบ้าน หรือต้นทับทิมจะส่งเสริมความรัก เป็นต้น

      7.ประตูทางเข้าบ้านสำคัญที่สุด

ประตูมีความสำคัญมากในทางฮวงจุ้ย เพราะประตูเปรียบเสมือนปราการด่านแรกในการเข้าออกบ้าน ไม่ว่าจะเป็นผู้คน เงินทอง โชคลาภ หรือพลังงาน ประตูที่ผิดตำแหน่งจะทำให้เกิดเรื่องไม่ดีขึ้นกับตัวบ้านได้เช่นกัน

เรื่องที่จำเป็นต้องคำนึงถึงเมื่อวางประตูบ้านมีสองข้อ ข้อแรก ในระยะ 45 องศา ต้องไม่มีต้นไม้ใหญ่ เสาไฟฟ้า ป้ายโฆษณาหรือเหลี่ยมมุมตึกทิ่มแทงเข้าสู่ตัวประตูบ้าน อีกข้อหนึ่งคือตำแหน่งประตูหน้าบ้านไม่ควรตรงกับประตูหลังบ้าน หากประตูทั้งสองบานตรงกัน ให้หาเฟอร์นิเจอร์เช่นตู้หรือโต๊ะคั่นระหว่างกลาง หรือหาฉากกั้นมาบังไม่ให้ตรงกันก็ได้

      8.วางเตาให้ถูกที่

เตาไฟเป็นเครื่องมือในการเติมพลังงานให้กับมนุษย์ เตาจึงเป็นจุดกำเนิดพลังงานภายในบ้านที่สำคัญและควรวางให้ถูกตำแหน่งตามหลักฮวงจุ้ย โดยหลักการของการวางเตาในบ้านมี 4 ข้อ คือ

  1. ตำแหน่งเตาไม่ควรตรงกับห้องนอน
  2. หน้าเตาไม่ควรตรงกับตำแหน่งเตียงนอน
  3. หน้าเตาไม่ควรตรงกับตำแหน่งตู้เย็นหรือซิงค์ล้างจาน
  4. หัวเตาควรหันไปทางทิศใต้หรือทิศตะวันออก

     9.วางเตียงนอนให้ถูกวิธี

เพราะเตียงนอนคือบริเวณที่มนุษย์ใช้เวลานานที่สุดในแต่ละวัน ตำแหน่งของเตียงนอนจึงมีความสำคัญตามหลักฮวงจุ้ยเป็นอย่างยิ่ง

หลักการในการวางเตียงนอนในบ้านประกอบไปด้วย

  • ห้องนอนห้ามอยู่ตรงกับห้องน้ำหรือบันได
  • ไม่ควรวางเตียงนอนกลางห้องนอน
  • ไม่ควรวางเตียงนอนกลางประตูห้องนอนโดยตรง
  • หัวเตียงควรหันเข้าหากำแพงโดยตรง
  • หัวเตียงไม่ควรผิงพนังด้านที่ิติดประตูห้องนอนหรือห้องน้ำ
  • หัวเตียงไม่ควรผิงพนังต้านที่ติดหน้าต่าง

    10. หาตำแหน่งทรัพย์ของบ้าน

ตำแหน่งทรัพย์ หรือ ‘ไฉ่อุ่ย’ คือตำแหน่งสำหรับการกระตุ้นทรัพย์โดยเฉพาะ เหมาะสำหรับการวางตู้เซฟ โต๊ะเก็บเงิน โต๊ะบัญชี เพื่อให้ทรัพย์ไหลมาเทมาอย่างต่อเนื่อง

สำหรับบ้านที่ประตูทางเข้าบ้านเปิดด้านขวามือ ตำแหน่งทรัพย์จะอยู่ที่มุมซ้ายของบ้าน ส่วนบ้านที่ประตูทางเข้าบ้านเปิดด้านซ้ายมือ ตำแหน่งทรัพย์จะอยู่ที่มุมขวาของบ้าน และบ้านที่ประตูทางเข้าบ้านเปิดออกที่สู่ตรงกลาง ตำแหน่งทรัพย์จะอยู่ที่ทั้งมุมซ้ายและมุมขวาของบ้าน

สรุป

การปรับปรุงบ้านให้เหมาะสมกับหลักฮวงจุ้ย นอกจะให้ผลทางใจในฐานะของการเพิ่มพลังให้กับผู้อยู่อาศัย การปรับฮวงจุ้ยบ้านยังมีผลต่อภูมิทัศน์และคุณลักษณะภายในบ้านไปด้วยอีกทางหนึ่ง ถ้าหากท่านสามารถทำการปรับฮวงจุ้ยบ้านอย่างง่ายได้ ผลลัพธ์ที่ได้คือการอยู่อาศัยดียิ่งขึ้นไปกว่าเดิม 

ที่มา: https://blog.ghbank.co.th/feng-shui-in-your-home/